Conversation


Conversation 

Ask who's calling
ถามว่าใครโทรมา
 May I ask who is calling, please?
= ขอถามได้ไหมครับ/คะ ว่าใครโทรมาครับ/คะ
 May I have your name, please?
= ขอทราบชื่อคุณได้ไหมครับ/คะ                                               Who’s calling, please?                                                
       = ใครโทรมาครับ/คะ                                                               Who is this?                                                                  = นี่ใครหรอ

I want to talk to anyone who calls.

ถามคนโทรมาว่าต้องการคุยกับใคร

 Who would you like to speak to?
= คุณต้องการพูดกับใครครับ/คะ
 Who are you calling for?
= คุณโทรมาหาใครครับ/คะ
When statements of late.
เมื่อต้องกำรข้อมูลของปลายสาย
 Who’s calling please? 
=ใครพูดอยู่คะ 
Where are you calling from? 
=คุณโทรจากที่ไหนคะ 
May I ask who’s calling?
= รบกวนถามว่าใครโทรมาคะ

การนัดหมาย (Making Appointments)

  • I need to make an appointment with you for business discussion. (ผมต้องการนัดพบคุณเพื่อปรึกษาเรื่องธุรกิจ)
  • Would it be possible to make an appointment with Mr. Peter tomorrow? (เป็นไปได้ไหมครับ ที่จะนัดพบคุณปีเตอร์พรุ่งนี้)
  • Could I see you sometime this week? (ผมขอพบคุณสัปดาห์นี้ได้ไหม)
  • Could we set up a meeting for next Friday at 9 a.m.? (เรานัดประชุมกันวันศุกร์หน้าเวลา 9 โมง ได้ไหม)
  • Can we get together and discuss for more? (พวกเรามาเจอกันแล้วคุยหารือกันให้มากกว่านี้ ได้ไหม)
  • Could I make an appointment to see you next week? (ผมขอนัดคุณสัปดาห์หน้าได้ไหม)
 

นัดเวลาสำหรับนัดหมาย (Setting up time for Appointments)

  • Is next Monday convenient for you? (พบกันจันทร์หน้าจะสะดวกคุณไหม)
  • Can we meet on the 2nd of January? (พบกันวันที่ 2 มกราคม ได้ไหม)
  • How about tomorrow at 9.00 a.m.? (เจอกันพรุ่งนี้ 9 โมง เป็นไง)
  • Ten o’clock is too late. Can we move up to 9 o’clock? (10 โมงสายเกินไปนะ ขอเลื่อนเป็น 9 โมงได้ไหม)
  • When can we meet? (เราจะเจอกันเมื่อไหร่ดี)
  • Are you available on the 8th? (วันที่ 8 คุณว่างไหมล่ะ)
  • Is 11 a.m. a good time for you? (เวลา 11 โมง ดีไหมล่ะ)
  • What about sometime next week? (เจอกันสัปดาห์หน้าเป็นไงล่ะ)
  • Can (could) we meet on Wednesday instead? (พบกันวันพุธแทนได้ไหม)
  • Is this time OK with you? (เวลานี้คุณเห็นด้วยไหม)
  • What time would be convenient for you? (เวลาไหนสะดวกสำหรับคุณครับ)
  • Please call me up what is the good time for you. (แล้วโทรมาบอกนะว่าเวลาไหนเหมาะสำหรับคุณ)
  • Would Sunday suit you? (วันอาทิตย์สะดวกไหม)
  • Are you free next week? (อาทิตย์หน้าว่างไหม)
  • I would like to see you at your earliest convenience. (ผมอยากพบคุณให้เร็วที่สุดที่คุณจะสะดวกได้)
 

การปฏิเสธนัด (Rejection of Appointment)

  • I’m sorry, I have another engagement. (เสียใจครับ ผมมีนัดที่อื่นแล้ว)
  • I’m sorry, I’ll be on leave at that time. (เสียใจครับ ช่วงเวลานั้นผมลางานอยู่ครับ)
  • I’m sorry, I won’t be able to make it on Sunday. (เสียใจครับ ผมไม่ว่างนะวันอาทิตย์)
  • I’m expecting someone at that time. (ผมนัดบางคนไว้เวลานั้นพอดี)
  • I’m afraid, I can’t make it at 10 o’clock. If possible, I would like to meet you in the afternoon. (ผมเกรงว่าจะพบคุณตอน 10 โมงไม่ได้ ถ้าเป็นไปได้ ผมขอเจอคุณในตอนบ่าย)
  • I’m very sorry, but something urgent has come up. (ผมเสียใจจริงๆ พอดีมีงานด่วนแทรกเข้ามา)
  • I’m fully booked up. (ผมมีภารกิจเต็มไปหมดเลย)

ตัวอย่างที่ 1 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

A        :         Good morning. I would like to make an appointment to see Mr. Smith. (สวัสดีครับ ผมอยากจะขอนัดพบคุณสมิธ)
B        :         When do you want to see him? (คุณต้องการพบเขาเมื่อไรครับ)
A        :         Is Friday at 9.00 a.m. convenient for him? (วันศุกร์ 9 โมงเช้าสะดวกสำหรับเขาไหมครับ)
B        :         Let me see first …. OK. Your appointment will be Friday at 9.00 a.m. (ผมขอดูก่อนนะ .... ตกลงครับ การนัดหมายของคุณคือ วันศุกร์ 9 โมง)
A        :         Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)
 

ตัวอย่างที่ 2 บทสนทนาเรื่องการนัดหมาย

(A = Somsri , B = Somchai)
A        :         Good morning, may I speak to khun Somchai, please? (สวัสดีครับ ขอเรียนสายกับคุณสมชาย ครับ)
B        :         Hello, this is Somchai speaking. (สวัสดีครับ ผมสมชายพูดครับ)
A        :         This is Somsri, Mr. Somkiat’s secretary. He would like to make an appointment with you sometime next week. (ดิฉัน สมศรีค่ะ เป็นเลขานุการของคุณสมเกียรติ คุณสมเกียรติต้องการนัดพบคุณสัปดาห์หน้าค่ะ)
B        :         On what business he has with me? (เขาต้องการพบผมในเรื่องธุรกิจอะไรครับ)
A        :         He has a new proposal to present to you. (เขามีข้อเสนอใหม่ที่จะนำเสนอคุณค่ะ)
B        :         Certainly. I’m available on Tuesday from 10 to 12 in the morning. Could he come to see me at my office by that time? (ได้สิ ผมว่างวันอังคาร ตั้งแต่ 10-12 โมงเช้า เขาจะมาพบที่ออฟฟิตผมได้ไหมล่ะ)
A        :         Yes, he can. Thank you sir. (ได้ค่ะ เขาไปได้ ขอบคุณมากค่ะ)
B        :         OK. Bye. (ตกลงนะ สวัสดี)
Conversations in restaurants
การสนทนาในร้านอาหาร
I’d like to make a reservation.
ฉันต้องการจองโต๊ะ
I’d like to book a table, please.
ฉันต้องการจองโต๊ะล่วงหน้า
Do you have any tables available?
มีโต๊ะว่างไหมคะ
For what time?/ When for?
จองเวลาไหนคะ
I’m sorry the restaurant is full now.
เสียใจด้วยคะตอนนี้โต๊ะเต็มแล้ว
การสนทนากันระหว่างพนักงานในร้านกับลูกค้า 
Do you have a reservation?
คุณได้จองโต๊ะไว้หรือเปล่า
I’ve got a reservation.
ฉันจองโต๊ะเอาไว้แล้ว
Who’s the reservation for?
จองโต๊ะในนามของใครคะ
How many seats?
กี่ที่คะ
Where would you like to sit?
คุณต้องการนั่งตรงไหนคะ
Do you have a table by the window?
มีโต๊ะริมหน้าต่างไหมคะ
การสนทนาสั่งเมนูอาหาร 
Would you like to see the menu?
คุณจะดูรายการอาหารไหม
Are you ready to order?
คุณพร้อมจะสั่งอาหารหรือยังคะ
Could I see the menu, please?
ขอดูเมนูหน่อยได้ไหม
 ลูกค้าขอความช่วยเหลือ
Can you please clean up the table?
ขอโทษคะ ช่วยเช้ดโต๊ะให้หน่อยได้ไหม
Can I have a napkin please?
ขอกระดาษเช้ดปากหน่อยได้ไหม
Bill please. 
เก็บเงินด้วยคะ
Pay separately. 
จ่ายแยกกัน 

ถามทาง (Asking for directions)

  • Excuse me, could you show me the way to Siam Square? (ขอโทษ คุณจะกรุณาบอกทางไปสยามสแควร์ให้ผมได้ไหม)
  • Excuse me, where is the Central Department Store? (ขอโทษ ห้างเซ็นทรัลไปทางไหนครับ)
  • Do you know where Miracle Grand Hotel is? (คุณทราบไหมว่าโรงแรมมิราเคิลแกรนด์อยู่ที่ไหน)
  • Do you know where the toilet is? (คุณรู้ไหมว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน)
  • Do you know the way to the Airport? (คุณรู้ทางไปสนามบินไหม)
  • Excuse me, could you show me how to get to this address? (ขอโทษ คุณจะกรุณาบอกทางไปยังที่อยู่นี้แก่ผมได้ไหม)
  • Excuse me, how do I get to the Ma Boon Krong Shopping Center? (ขอโทษ ผมจะไปศูนย์การค้า
  • มาบุญครองยังไงครับ)
  • Excuse me, where is the nearest public telephone? (ขอโทษครับ โทรศัพท์สาธารณะใกล้ที่สุดอยู่ไหนครับ)
  • How can I get to the Grand Place? (ผมจะไปพระบรมมหาราชวังยังไงครับ)

คำตอบบอกทิศทาง-สถานที่ (Reply for directions)

  • Turn left. (เลี้ยวซ้าย)
  • Turn right. (เลี้ยวขวา)
  • Turn left at the next corner. (เลี้ยวซ้ายที่หัวมุมข้างหน้า)
  • Go straight ahead. (ตรงไปเลย)
  • It’s to your right (left). (อยู่ทางขวา (ซ้าย) มือของคุณ)
  • It’s across the street. (อยู่ตรงข้ามถนน)
  • Turn right at the intersection. (เลี้ยวขวาที่สี่แยก)
  • It’s behind that building. (อยู่หลังตึกนั้น)
  • It’s in front of that big building. (อยู่หน้าตึกใหญ่นั่น)
  • It’s near the bridge. (อยู่ใกล้สะพาน)
  • It’s close to the bus terminal. (อยู่ใกล้กับสถานีขนส่ง)
  • It’s very far from here. (อยู่ไกลจากที่นี่มาก)
  • It’s not far from here. (ไม่ไกลจากนี่)
  • It’s a huge brick building. (เป็นตึกอิฐหลังใหญ่)
  • It’s to the right of the railway station. (อยู่ทางขวาของสถานีรถไฟ)
  • It’s over the bridge. (อยู่ข้ามสะพานไป)
  • You will see the building on your right. (คุณจะเห็นตึกอยู่ทางขวามือของคุณ)
  • Keep going until you get to a small bridge. (เดินต่อไปเรื่อยๆจนถึงสะพานเล็กๆ)
  • It’s about 200 meters from here. (อยู่ห่างจากนี่ 200 เมตร)
  • It’s on the other side of the park. (อยู่อีกด้านหนึ่งของสวน)

ตัวอย่างบทสนทนา

Sample 1 :

A        :         Excuse me. Could you give me directions?  (ขอโทษครับช่วยบอกทางผมหน่อย)
B        :         Where are you going? (คุณกำลังจะไปที่ไหนครับ)
A        :         I’m looking for the Emerald Buddha Temple. (ผมกำลังมองหาวัดพระแก้วอยู่ครับ)
B        :         Go straight to the next intersection and turn right. (ตรงไปเรื่อยๆจนถึงสี่แยกหน้า แล้วเลี้ยวขวาครับ)
A        :         Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)

Sample 2 :

A        :         Can you tell me where the railway station is?  (บอกผมหน่อยได้ไหม สถานีรถไฟไปทางไหน)
B        :         Yes, go straight ahead until you reach the intersection. Don’t turn. Go on straight ahead. You’ll come to another intersection. Then turn right. You’ll see the railway station in front of you. (ครับ เดินตรงไปจนกว่าจะถึงสี่แยก อย่าเลี้ยว เดินตรงไปข้างหน้าอีก คุณจะมาถึงอีกสี่แยกหนึ่ง แล้วเลี้ยวขวา คุณจะเห็นสถานีรถไฟอยู่ตรงหน้าคุณเลย)
A        :         Thank you very much. (ขอบคุณมากครับ)
B        :         You are welcome. (ยินดีครับ)

Sample 3 :

A        :         Excuse me, is this the way to the Northern Bus Terminal? (ขอโทษครับ ทางนี้ไปขนส่งหมอชิตใช่ไหม)
B        :         No, not this one. Do you see the main road over there? (ไม่ใช่ทางนี้ครับ คุณเห็นถนนใหญ่ที่นั่นไหม)
A        :         Yes, sir.  (เห็นครับ)
B        :         Go to that road, turn right, go straight on until you find a huge brick building. That is the bus terminal. (ไปตามถนนสายนั้น เลี้ยวขวา ตรงไปจนกระทั่งคุณเจอตึกอิฐหลังใหญ่ นั่นล่ะสถานีหมอชิต)
A        :         Thank you. (ขอบคุณครับ)
B        :         No problem. หรือ Don’t mention it หรือ You’re welcome (ยินดีครับ)
การสนทนาเกี่ยวกับการซื้อของ
 A : Where are you going to ?   คุณกำลังจะไปไหนครับ?
  B : I'm going shopping.    ผมจะไปซื้อของครับ
  A : What do you want to buy ?    คุณต้องการซื้ออะไรครับ
  B : I want to buy a birthday present for my brother.    ผมต้องการซื้อของขวัญวันเกิดให้น้องขายของผมครับ
  B : What do you think I should buy for my brother ?   คุณคิดว่าผมควรซื้ออะไรให้น้องชายของผม ?
  A : How old is he ?   เขาอายุเท่าไร ?
  B : He's five years old.   เขาอายุห้าขวบ
  A : Well, I think a toy gun. or a toy car will be fine for him.    เออ ผมคิดว่าเป็นเด็กเล่น หรือรถเด็กเล่นน่าจะเหมาะกับเขา
 
  A : Please show me a shirt.    ช่วยหยิบเสื้อเชิ้ตให้ผมดูหน่อยครับ
  B : What is your size ?    คุณใส่เบอร์อะไรครับ
  A : Medium size.     เบอร์ขนาดกลางครับ
  B : Here it is, sir. It looks good for you.   นี่ครับ ดูแล้วเหมาะกับคุณครับ
  A : Indeed, it does look good. How much is it ?   จริงครับ มันดูดี ราคาเท่าไรครับ ?
  B : It's five hundred bath.    ราคาห้าร้อยบาทครับ
  A : Please wrap it, here's the money.   ช่วยห่อให้ด้วย นี่ครับเงิน
  B : Thank you, sir.    ขอบคุณครับ
  A : Would you please wrap it in fancy wrapping paper ?   คุณช่วยห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญได้ไหมครับ ?
  B : I'd glad to, but you have to pay extra 20 bath.    ยินดีครับ แต่คุณต้องจ่ายเพิ่มอีกยี่สิบบาท
  A : That's all right. Here's the money.   ไม่เป็นไร นี่ครับเงิน
  B : Thanks a lot, sir.    ขอบคุณมากครับ
  A : Can I help you, Sir ?   ให้ผมช่วยอะไรได้บ้างครับ ?
  B : Yes, Could you tell me wher ethe batik department is ?    ครับ ช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับว่าห้างขายผ้าพิมพ์ลายแบบชวาอยู่ที่ไหนครับ ?
  A : Sure, It's on the fourth floor.    ได้แน่นอน มันอยู่บนชั้นสี่ครับ
  There you can get everything made of batik.   ที่นั่นคุณจะพบทุกอย่างทำด้วยผ้าพิมพ์ลายแบบชวาครับ
  B : Thank you, sir.    ขอบคุณครับ
  A : Don't mention it.    ไม่เป็นไรครับ
  A : Can I be of any service to you ?    ผมช่วยอะไรคุณได้บ้างครับ ?
  B : Yes. Do you have batik shirts ?    ครับ คุณมีเสื้อเชิ้ตพิมพ์ลายแบบชวาไหมครับ ?
  A : Surely. This way please. There you are. You may choose what you like.   แน่นอน ทางนี้ครับ นั่นไงครับ คุณเลือกได้ตามใจชอบเลยนะครับ ?
  B : Help me get that green one, please.    ช่วยเอาตัวสีเขียวนั่นให้ผมหน่อยครับ
  A : All right, sir. Here it is. What size do you want ?   ได้ครับ นี่ครับ คุณต้องการเบอร์อะไรครับ ?
  B : Fifteen, please.    เบอร์สิบห้าครับ
  B : Do you have a fitting room ?    คุณมีห้องลองไหมครับ ?
  A : Yes, it's over there in the corner.    มีครับ อยู่ที่มุมนั้นครับ
  B : Thank you.    ขอบคุณครับ
  A : Does it fit you, sir ?   ใส่ได้พอดีไหมครับ ?
  B : I'm afraid, it's too big.   ผมเกรงว่ามันจะใหญ่เกินไป
  A : Do you want a smaller one ?    คุณจะเอาตัวเล็กกว่าไหมครับ ?
  B : Yes, please.    ครับผม
  A : Here you are, sir.   นี่ครับ
  A : I want two shirts of this size one long sleeves and the other short sleeves.    ผมต้องการเสื้อเชิ้ตขนาดนี้สองตัว แขนยาวหนึ่งตัวและอีกตัวแขนสั้น
  B : All right, sir, but the price is not the same.   ได้ครับ แต่ราคาไม่เท่ากันนะครับ 
  A : What's the price of both shirts ?   ทั้งสองตัวราคาเท่าไร ?
  B : The long sleeves is one thousand bath and the short sleeves is five hundred bath.   แขนยาวหนึ่งพันบาท และแขนสั้นห้าร้อยบาท
  A : I see. Here's the money.   อ้อ นี่ครับเงิน
  A : Can you tell me where can I get sugar, flour, meat, soap and rice ?   คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับว่าผมจะซื้อน้ำตาล แป้ง เนื้อ สบู่ และข้าวได้ที่ไหนครับ ?
  B : Certainly, sir. it's at the ground floor.   ได้แน่นอน มันอยู่ที่ชั้นล่างครับ
  A : Is there an escalator to get down there ?   มีบันไดเลื่อนลงไปไหมครับ ?
  B : No, there isn't. You'll have to get down from the corner.   ไม่มีครับ คุณต้องลงจากที่มุมนั้น
  A : Thanks for your information.   ขอบคุณสำหรับข้อมูลของคุณ
  A : What do you want, sir ?   คุณต้องการอะไรครับ ?
  B : Please give me five ice-creams.   ขอไอศครีมห้าถ้วยครับ
  A : Which flavour do you want ? We've chocolate, strawberry, vanilla and lemon.   คุณชอบรสอะไร เรามีช็อกโกแล็ต สตรอเบอรี่ วานิลา และมะนาว
  B : I want two chocolates, two lemons and one strawberry.   ผมต้องการช็อกโกแล็ตสอง มะนาวสอง และสตรอเบอรี่หนึ่ง
  A : Here you are. it's twenty bath each.   ถ้วยละยี่สิบบาทครับ
  B : Here's the money. Thank you.   นี่ครับเงิน ขอบคุณ
อ้างอิง
http://www.tonamorn.com/
http://everydayenglish.pwa.co.th/
https://sites.google.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น